![](https://cdn.prod.website-files.com/6063345cc13db992ffe13a50/67623d56d6811dd5130d1c44_710_0.jpg)
'ผักดองฝูหลิง' เครื่องเคียงธรรมดาๆ จากจีนที่ดังไกลไปทั่วโลก
![](https://cdn.prod.website-files.com/6063345cc13db968ede13a37/6063345cc13db9afcbe13a84_Clock.png)
18
December
2024
![](https://cdn.prod.website-files.com/6063345cc13db968ede13a37/6063345cc13db9afcbe13a84_Clock.png)
18
December
2024
‘ผักดองฝูหลิง’ 1 ใน 3 ผักดองชื่อดังของโลก สร้างมูลค่าผลผลิตรวมต่อปีกว่า 1.4 หมื่นล้านหยวน
![](https://cdn.prod.website-files.com/6063345cc13db992ffe13a50/67623d44d62799b5f0981298_AD_4nXej4OBptNSfypwutHC0iWeNV8AGSd3BZpvb9kY0NzO50kIOJV70ay5DQLNE3_xs91Qw3-rj3mi-W8JLxzg__clKcSLKEig0fQDOgP9rfSvjfrX5h5QuXb4nHEt6Enn085Ig6Sifhw.png)
‘ผักดองฝูหลิง’ หรือ ‘ฝูหลิงจ้าช่าย’ (涪陵榨菜) เป็นผักกาดดองจีนที่มีถิ่นกำเนิดมาจากเขตฝูหลิง นครฉงชิ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ทำมาจากผักที่มีชื่อว่า ‘จิงหลิวเจี้ย’ (茎瘤芥) หรือผักชนิดหนึ่งในตระกูลมัสตาร์ด นับเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องเคียงธรรมดาๆ ที่กลายมาเป็นเสาหลักทางเศรษฐกิจที่สร้างรายได้และเลี้ยงปากท้องผู้คนในพื้นที่กว่า 600,000 คน
![](https://cdn.prod.website-files.com/6063345cc13db992ffe13a50/67623d44b4ea3893ce939273_AD_4nXenEYnpbzYm49K7xlJQciqp1gh8V6tx1TwvWAq8A1ANLXDZH6_i6UNdHMhA4iRK3QR2wTMPsa_JnwVLq69HVVIBuyIgeCeZ_uEmcUsh-fdkUgr7Epe8n6AsjEcpSkYPrqdwAqbF5g.png)
ผักดองฝูหลิง ซึ่งได้รับขนานนามว่า ‘เมนูเรียกน้ำย่อยประจำชาติ’ มีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี 1898 โดดเด่นด้วยรสชาติสดชื่นและเนื้อสัมผัสกรอบนุ่มที่เป็นเอกลักษณ์
ตลอดเวลากว่าหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ผักดองฝูหลิงได้พัฒนาเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่และทรงอิทธิพลที่สุดในเศรษฐกิจชนบทของฉงชิ่ง ทั้งยังเป็น 1 ใน 3 ผักดองที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลก ร่วมกับแตงกวาดองจากยุโรป และกะหล่ำปลีดอง (Sauerkraut) ของเยอรมัน
![](https://cdn.prod.website-files.com/6063345cc13db992ffe13a50/67623d44b2a2dee1ded14c06_AD_4nXfKhyrKuY6feEqzXJO14khhVmUcfjww20ro-Y1CCjK3TkPuaKX0zYw2vse6lzRiUeus6UG7hBdOyeFgypkLOngJFY08IsthMgSQRxi5FeAO9fBY0wfMzLxcgZr6YMrUV1idHyeh.png)
นอกจากนี้ ‘เทคนิคการทำผักดองแบบดั้งเดิมของฝูหลิง’ ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมระดับชาติของจีนอีกด้วย
ข้อมูลสถิติเปิดเผยว่า อุตสาหกรรมผักดองของเขตฝูหลิงสร้างมูลค่าผลผลิตรวมต่อปีมากกว่า 14,000 ล้านหยวน โดยมีวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องกับผักดองถึง 197 แห่ง และโรงงานผลิตผักดองอีก 41 แห่ง
![](https://cdn.prod.website-files.com/6063345cc13db992ffe13a50/67623d4426e8988ee3940f75_AD_4nXeLyvOYD8ieGaLOlrMErBtc_AqQAQ73BYHQtYJnMLJKidTdUbScl_evEBBgQYyzbJPTT8ICyf2GWbv67fsiNNHqNQ8aFyocFf5kvNU6xvEwgeHacokIyf2axEiIk323BEc4bfiP.png)
ปัจจุบัน อุตสาหกรรมนี้ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์กว่า 100 ชนิด แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่ วัตถุดิบหลักอย่างหัวผักจิงหลิวเจี้ย, ผักดองทั้งหัว, ผักดองพร้อมรับประทาน และผลิตภัณฑ์เพื่อการส่งออก
มีการจัดตั้งสถานที่สาธิตทางการเกษตรและแหล่งท่องเที่ยวชนบทตามธีมผักดองทั้งหมด 38 แห่งทั่วเขตฝูหลิง ซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 2 ล้านคนต่อปี
![](https://cdn.prod.website-files.com/6063345cc13db992ffe13a50/67623d43d151081dada4b360_AD_4nXfNlmc2nnulZ2WsD8q1gJWxHk4jNtJdf5gsGt-leWjYgUSSKP8iRHo613lwWiuRODIud6g3msTgiaWgb7cgGsH1_zaYwI0CltGVLiyE1bOcC40NOH4PxTqHD49GcRGPnnywjlbF.png)
ภายในหมู่บ้านเอ้อร์ตู้ของเขตฝูหลิง ซึ่งได้รับการขนานนามว่า "หมู่บ้านผักดองอันดับ 1 ของโลก" (世界榨菜第一村) อุตสาหกรรมผักดองคิดเป็นรายได้มากกว่าร้อยละ 70 ของที่นี่ และรายได้สุทธิเฉลี่ยต่อหัวของหมู่บ้านสูงกว่า 25,000 หยวนต่อปี
![](https://cdn.prod.website-files.com/6063345cc13db992ffe13a50/67623d438d6fa789f6f351b0_AD_4nXeHM61QEWaJOOU83ObDEKiE_uh6l4HDi-XDRhWxWEWlL_VrDma2-U8yHZr70AXmgPsodyHNWG5QrFM5tt-MbeMsuX1rUisCT7b1OLdq_s99N7incyZBAhcSMy_36poaoKZVf0stYA.png)
ปัจจุบันเขตฝูหลิงกำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อขยายอุตสาหกรรมผักดอง ทางการท้องถิ่นของเขตฝูหลิงเปิดเผยว่า จะส่งเสริมความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรม เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ผักดองร่วมกับสินค้าอื่นๆ เช่น กาแฟ ขนมไหว้พระจันทร์ และแฮมเบอร์เกอร์รสผักดอง อย่างต่อเนื่อง
เขตฝูหลิงตั้งเป้าที่จะขยายพื้นที่ปลูกผักให้ได้ถึง 750,000 หมู่ (ราว 312,500 ไร่) โดยมีผลผลิตรวม 1.9 ล้านตันภายในปี 2027 และตั้งเป้าจะผลักดันมูลค่าผลผลิตอุตสาหกรรมผักดองให้แตะ 20,000 ล้านหยวน พร้อมผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผักดองสำเร็จรูปได้มากกว่า 650,000 ตันต่อปี
เป้าหมายสูงสุดคือ การทำให้ฝูหลิงกลายเป็นศูนย์กลางการผลิต การจัดจำหน่ายและนวัตกรรมเกี่ยวกับผักดองที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ที่มา: People’s Daily Online