WHA พร้อมเคียงข้างทุกความสำเร็จ ตอบรับกระแสการลงทุนจากจีน

        นิคมอุตสาหกรรมไทยยังดึงดูดนักลงทุนจีนอยู่หรือไม่ ? หลังจากไทยมีนโยบายเปิดประเทศ ส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนอย่างไร? และธุรกิจสาขาใดบ้าง?ที่มีแนวโน้มขยายฐานจากจีนเข้ามาในไทยมากขึ้น

        TAP Magazine โดยเอมิลี่ เฉิน (Emily Chen) กรรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย บิซ พาโนราม่า จำกัด ได้รับเกียรติสัมภาษณ์พิเศษ ลัดดา โรจนาวิไลวุฒิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ที่ดินและอาคารอุตสาหกรรม บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ผู้นำด้านการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมแถวหน้าที่ได้รับการยอมรับจากธุรกิจชั้นนำของจีนที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย

        ล่าสุด เมื่อเร็ว ๆ นี้  WHA ยังได้เปิดตัวนิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 11 ในประเทศไทย คือ “นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36” ขนาดพื้นที่จำนวน 1,281 ไร่ บนทำเลที่ตั้งในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลล่าสุด พร้อมที่จะต้อนรับการเข้ามาลงทุนของกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curve) ทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และอุตสาหกรรมการบิน อิเล็กทรอนิกส์ และโลจิสติกส์ ฯลฯ

หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มมีทิศทางดีขึ้น บรรยากาศการลงทุนเป็นอย่างไรบ้าง นักลงทุนจีนยังคงให้ความสนใจอยู่ไหม ?

        ยังมีนักลงทุนจีนให้ความสนใจเป็นจำนวนมากค่ะ ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในปี 2563-2564 มีนักลงทุนเป็นชาวจีนมากที่สุดค่ะ ลูกค้า 80% ของเราคือบริษัทจีน จนเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วที่ประเทศไทยเริ่มผ่อนปรนมาตรการในการเดินทางเข้าประเทศ ลดเวลากักตัวจาก 1 สัปดาห์ เหลือ 5 วัน ตามมาด้วยการยกเลิกการลงทะเบียน Thailand Pass ตั้งแต่เดือน ก.ค.ปีนี้  ทำให้มีนักลงทุนจากยุโรปและสหรัฐอเมริกาเข้ามามากเช่นกัน แต่บริษัทจีนยังคงมากอยู่ และเมื่อไม่นานนี้ บริษัท SAIC ผู้ผลิตรถยนต์ MG ก็ได้เปิดโรงงานผลิตในนิคมอุตสาหกรรมของเรา รวมถึง Great Wall Motors (GWM) ก็ได้เซ็นสัญญาซื้อขายโรงงานของ General Motors (GM) ในนิคมอุตสาหกรรมของเราเช่นกัน ช่วงนี้เทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่เข้ามาไทย ส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ที่มาจากจีนทั้งนั้น เรียกได้ว่ากระแสมีเข้ามาเรื่อย ๆ  ส่วนอีกกลุ่มก็จะเป็นพวกสินค้าอุปโภคบริโภค และอย่างที่ทราบกันว่าปัจจัยสงครามการค้าจีน-สหรัฐ ทำให้จากเดิมที่เรามีกลุ่มลูกค้าเป็นบริษัทญี่ปุ่นมากถึง 32% กลายเป็นว่าตอนนี้เรามีบริษัทจีนเพิ่มขึ้นเป็น 12% จากเดิมที่มีเพียง 2% เมื่อปี 2562

อะไรคือข้อได้เปรียบของไทยที่ดึงดูดนักลงทุนจีน

        ดิฉันคิดว่าไม่ใช่แค่เพียงแต่ปัจจัยสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ส่วนใหญ่ 80 % คือส่งออกไปยังสหรัฐฯ แต่พวกเขายังสามารถเจาะตลาดอาเซียน เพราะไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียน สามารถส่งออกไปยังมาเลเซีย อินโดนีเซีย กัมพูชา และสปป.ลาว อีกทั้งปัจจุบันคนอาเซียนก็ให้การยอมรับแบรนด์จีน ถ้าคุณอยู่ที่ไทยอยู่แล้ว คุณก็จะเห็น อย่างรถยนต์ไฟฟ้า  MG และ GWM ทั้ง 2 แบรนด์นี้สามารถทำยอดขายได้สูงในงานแสดงรถยนต์ที่ไทยในปีนี้

ศักยภาพของ WHA ในการรองรับการลงทุนจากจีน

        นิคมอุตสาหกรรมของเราเป็นนิคมฯ ที่ใหญ่ที่สุดของไทย เรามีนิคมอุตสาหกรรม 10 แห่ง ตั้งอยู่พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นิคมอุตสาหกรรมที่จีนมีโครงสร้างพื้นฐาน 7 อย่าง ของเราเองก็มีความใกล้เคียง นอกจากนี้ยังร่วมมือกับโรงไฟฟ้าบริษัทกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี้ สามารถใช้ไฟฟ้าที่เราผลิตได้เองในราคาที่ถูก และยังมีท่อส่งไอน้ำ โรงงานยางรถยนต์ ท่อส่งก๊าซธรรมชาติของเราเอง ซึ่งทั้งหมดถูกฝังอยู่ใต้พื้นดิน ดังนั้นบริษัทจีนส่วนใหญ่จึงมองว่าเราเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างดี

        นอกจากนี้ เรายังทำหน้าที่เป็นคนกลางคอยให้ความช่วยเหลือ นักลงทุนจีนมาที่ไทยยังไม่ทราบข้อมูลอะไร เราก็จะคอยช่วยเหลือหาข้อมูลให้ อย่างคนต่างชาติมาไทยก็อยากทราบข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิต โรงเรียน โรงพยาบาล เราก็จะพาพวกเขาไปดู ถ้าอยากติดต่อกับหน่วยงานรัฐบาล เราก็จะช่วยนัดเวลาให้ เช่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)

“นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36” ทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนจีน

        นิคมอุตสาหกรรม WHA ระยอง 36 เป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ล่าสุดของเรา โดยเฟสแรกพัฒนาเสร็จแล้วเมื่อเดือนเม.ย. ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนจีนที่ให้ความสนใจ พวกเขารู้สึกว่าทำเลที่ตั้งดี ถ้ามาจากทางหลวงสาย 36 ก็จะใกล้กับพัทยามาก แล้วก็มีย่านที่อยู่อาศัย หากรับสมัครคนงานก็ไม่ยากมาก เพราะมีแหล่งที่อยู่อาศัยและอยู่ใกล้กับโรงเรียน ดังนั้นในอนาคตดิฉันคิดว่าทำเลนี้ดีมาก ๆ